ชื่อธุรกิจของคุณคือสิ่งที่สามารถดึงดูดสายตาลูกค้าได้ ชื่อที่ตั้งมักจะต้องมีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ และน่าจดจำ ถ้าคุณลองศึกษาที่มาของชื่อธุรกิจที่มีชื่อเสียงหลาย ๆ ธุรกิจ คุณจะพบว่าพวกเขาเลือกใช้วิธีการตั้งชื่อที่สร้างสรรค์ และพวกเขาไม่ได้ใช้ชื่อตัวเองในการตั้งชื่อธุรกิจ แต่ชื่อนั้นสามารถทำให้บริษัทของพวกเขากลายเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง และผู้คนมักจะรู้จัก และจะรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาทำเกี่ยวกับอะไร
การตั้งชื่อธุรกิจของคุณเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดที่คุณจะต้องทำ ในการเริ่มต้นธุรกิจใหม่มักเป็นกระบวนการที่น่าตื่นเต้น แต่การตั้งชื่อให้ธุรกิจอาจเป็นเรื่องยาก คุณจะต้องตั้งชื่อธุรกิจให้ติดหูและน่าจดจำ รวมถึงคุณต้องแน่ใจว่าบริษัทอื่นไม่ได้ครอบครองชื่อนั้นแล้ว หากคุณกำลังประสบปัญหาในการตั้งชื่อธุรกิจ ไม่รู้จะตั้งชื่อธุรกิจอย่างไรให้โดนใจ ในบทความนี้เราได้รวบรวมเคล็ดลับในการตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มมาให้คุณได้ลองทำตามดู รวมถึงแนะนำเครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มที่เป็นตัวช่วยสำคัญเพื่อให้คุณได้ชื่อธุรกิจแบบสุ่มที่โดดเด่น และสร้างสรรค์ในเวลาที่รวดเร็ว
เครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มคืออะไรและทำงานอย่างไร?
การคิดชื่อธุรกิจแบบสุ่มเพื่อให้ได้ชื่อที่โดนใจและสร้างสรรค์ไม่ใช่เรื่องง่าย มีปัจจัยหลายอย่างด้วยกันที่ควรนำมาพิจารณา คุณอาจจะคิดว่าตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มอย่างไรให้ได้ชื่อที่เหมาะสม สามารถเป็นที่จดจำได้ง่าย ที่สำคัญชื่อนั้นต้องเป็นชื่อที่ไม่ซ้ำกับชื่อธุรกิจของคนอื่น เพราะต้องนำไปใช้ในการจดทะเบียนเป็นชื่อบริษัทของคุณเองในภายหลัง เพื่อลดความยุ่งยากดังกล่าว เราจึงอยากให้คุณได้ลองใช้เครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มของเรามาเป็นตัวช่วยในการสุ่มชื่อธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด
เครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มเป็นเครื่องมือจะที่ช่วยคิดชื่อธุรกิจแบบสุ่มให้กับคุณ เพียงคุณป้อนคีย์เวิร์ดหรือวลีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ต้องการทำลงไป หลังจากนั้นเครื่องมือจะทำการสุ่มชื่อธุรกิจ พร้อมผสมคำสวยๆ ขึ้นมาให้คุณได้เลือกใช้ คุณสามารถต่อยอดด้วยการไปสร้างเป็นคำใหม่ได้ โดยนำคำเหล่านั้นมาผสมหรือสลับให้เกิดเป็นคำใหม่เท่ๆ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะได้ชื่อที่ได้ยินแล้วโดนในสำหรับนำมาตั้งเป็นชื่อธุรกิจของคุณเองได้
3 ขั้นตอนใช้งานเครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่ม
เครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่ม เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณได้ชื่อธุรกิจแบบสุ่มที่สร้างสรรค์ และยังช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการคิดค้นชื่อธุรกิจ สำหรับการใช้งานเครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มไม่ยากอย่างที่คิด โดยคุณสามารถทำตาม 3 ขั้นตอนคำแนะนำดังนี้
1. ศึกษาความหมายคำศัพท์ และรวบรวมคำศัพท์ที่ชอบ
ขั้นตอนแรก ให้คุณเริ่มจากการศึกษาความหมายของคำศัพท์ที่คุณชื่นชอบ เพื่อให้ได้ชื่อธุรกิจที่มีความหมายที่กี หรือคุณอาจจะค้นหาคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่คุณทำ หลังจากนั้นให้คุณรวบรวมคำเหล่านั้นเพื่อนำมาใช้สำหรับตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มของคุณดู เพื่อให้ได้ชื่อธุรกิจที่สร้างสรรค์แต่แฝงด้วยความหมายที่ดีได้
2. นำคำมาใส่ในเครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มเพื่อสร้างตัวเลือกชื่อ
หลังจากที่คุณได้รวบรวมคำศัพท์และคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณมาได้จำนวนหนึ่งแล้ว ก็ให้เลือกคำที่คุณชอบ เพื่อนำมาใส่ในเครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่ม แล้วเครื่องมือจะทำการประมวลผลจากคีย์เวิร์ดที่คุณใส่มาผสมคำจนเกิดเป็นชื่อธุรกิจให้คุณได้เลือกใช้ ทีนี้คุณก็ลองค้นดูได้เลยว่า มีชื่อไหนบ้างที่คุณชอบ
20 ตัวอย่างชื่อธุรกิจแบบสุ่มที่น่าสนใจ จากเครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่ม
- RandomLux
- Randomio
- Admire Arts
- Artist Artsy
- Marketing Iconic
- Snap Publish
- Quad Goals
- Idea Scoot
- All-star Idea
- Strat Security
- Fitgenix
- Fit Fox
- Cogent Data
- Services Touch
- Shoesy Touch
- Wavy light
- Gear Smart
- Icolux
- Beautouch
- Beautry
นี่เป็นเพียงชื่อบางส่วนที่ได้จากเครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่ม หากคุณต้องการชื่อเพิ่มเติม สามารถเข้าไปค้นหาในเครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มและไอเดียแล้วคุณจะพบกับชื่อธุรกิจแบบสุ่มที่ตรงใจคุณอย่างแน่นอน นอกจากนี้คุณสามารถใช้วิธีผสมคำที่ได้จากเครื่องมือ เพื่อให้ได้ชื่อที่แปลกใหม่ และสร้างสรรค์
3. ตรวจสอบว่ามีคนนำชื่อนี้ไปใช้แล้วหรือยัง
หลังจากที่ได้ชื่อธุรกิจแบบสุ่มที่ตรงใจคุณแล้ว ก็ลองกดชื่อที่ชอบเพื่อตรวจสอบดูว่า มีคนเอาชื่อนั้นไปใช้แล้วหรือยัง ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของเครื่องมือนี้ก็คือ คุณสามารถใช้เครื่องชื่อตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มเช็คได้ว่าชื่อที่เลือกนั้นมีคนนำไปใช้หรือนำไปจดโดเมนเป็นชื่อเว็บไซต์สำหรับธุรกิจแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่มี คุณก็สามารถจดทะเบียนโดเมนสำหรับพัฒนาเว็บไซต์ของธุรกิจคุณได้เลย
และนี่ก็คือ 3 ขั้นตอนสำหรับตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มของคุณ ด้วยเครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มของเรา เป็น 3 วิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้การคิดค้นชื่อธุรกิจที่คุณต้องการนั้นง่ายและรวดเร็วกว่าที่เคย เพื่อให้คุณมีเวลาไปดูแลเรื่องอื่น ๆ มากขึ้น ทั้งการเตรียมพร้อมบริการ และช่องทางโปรโมทต่าง ๆ อย่างเว็บไซต์ ที่เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญ สำหรับเชื่อมโยงระหว่างธุรกิจแบบสุ่มของคุณและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเข้าด้วยกันบนโลกออนไลน์
แรงบันดาลใจในการตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่ม ของ 3 บริษัทชั้นนำ ได้ชื่อมาอย่างไร?
1. Google
เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักชื่อนี้ เพราะเป็นชื่อบริษัทที่คนรู้จักมากที่สุดในโลก เมื่อเราต้องการค้นหาข้อมูลใดๆ เราจะนึกถึง Google เป็นชื่อแรก ชื่อ “Google” มาจากคำว่า “googol” ซึ่งหมายถึงจำนวนทางคณิตศาสตร์ที่หมายถึงเลข 1 แล้วตามด้วยเลข 0 อีกหนึ่งร้อยตัว หรือ 10100 เพื่อเป็นการแสดงถึงเป้าหมายของบริษัทที่จะจัดการกับข้อมูลจำนวนมหาศาล อีกกระแสหนึ่งบอกว่าชื่อ Google มาจากความผิดพลาดในการจดโดเมนเนมในช่วงก่อตั้ง
2. Hotmail
Hotmail ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1996 โดยเกิดจากการคิดค้นของ Sabeer Bhatia และ Jack Smith ผู้ซึ่งเคยทำงานบริษัทแอปเปิลก่อนจะลาออกมาพัฒนา Hotmail ซึ่งในตอนแรกนั้นพวกเขาตั้งชื่อว่า HoTMaiL โดยมีที่มาจาก HTML ที่เป็นภาษาคอมพิวเตอร์สำหรับใช้เขียนเว็บไซต์ และหลังจากนั้น Hotmail ก็ถูกไมโครซอฟท์ซื้อมาเปิดให้บริการเอง
3. Ikea
IKEA มาจากตัวอักษรแรกของชื่อผู้ก่อตั้ง Ingvar Kamprad, ชื่อฟาร์ม Elmtaryd ที่เขาเติบโตขึ้นมา และหมู่บ้าน Agunnaryd ที่อยู่ใกล้เคียง
คุณเองก็สามารถลองใช้ชื่อย่อหรือชื่อของคุณเองในการสร้างชื่อธุรกิจแบบสุ่ม ไม่แน่ว่าคุณอาจพบว่า สิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการตั้งชื่อบริษัทเองก็ได้
และนี่เป็นตัวอย่างที่ดีของความคิดสร้างสรรค์ในการตั้งชื่อธุรกิจ แต่หากคุณยังนึกไม่ออกว่าจะคิดชื่อธุรกิจแบบสุ่มได้อย่างไร มีวิธีใดบ้างที่คุณสามารถใช้ภาษาที่สัมพันธ์กับธุรกิจของคุณ ให้คุณลองป้อนคำที่คุณรวบรวมมาลงในเครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มของเราดู
6 เคล็ดลับในการตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มที่ไม่ซ้ำใคร
เมื่อคุณรู้วิธีการใช้งานเครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มของเราแล้ว รวมถึงได้เห็นตัวอย่างชื่อที่ได้จากเครื่องมือของเรา ขั้นตอนต่อไปเราจะมาแนะนำ 6 เคล็ดลับตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มของคุณไม่ให้ซ้ำใคร
1. ตั้งชื่อจากคำรอบๆ ตัวให้สร้างสรรค์
รู้หรือไม่ว่า ผู้ก่อตั้ง Facebook และ Snapchat ไม่ได้ระบุชื่อของพวกเขาในชื่อธุรกิจ แต่พวกเขาใช้วิธีสร้างสรรค์และคิดค้นชื่อเอง โดยที่มาของชื่อ Facebook นั้นมาจากโรงเรียนเก่าในระดับมัธยมปลายของมาร์ค ที่ชื่อฟิลิปส์ เอ็กเซเตอร์ อะคาเดมี่ โดยที่โรงเรียนนี้ จะมีหนังสืออยู่หนึ่งเล่มที่ชื่อว่า The Exeter Face Book ซึ่งจะส่งต่อ ๆ กันไปให้นักเรียนคนอื่น ๆ ได้รู้จักเพื่อน ๆ ในชั้นเรียน ซึ่ง face book นี้จริง ๆ แล้วก็เป็นหนังสือเล่มหนึ่งเท่านั้น จนเมื่อวันหนึ่ง มาร์คได้เปลี่ยนแปลงและนำมันเข้าสู่โลกของอินเทอร์เน็ต
ส่วน Snapchat ชื่อของแอปพลิเคชั่น ก็บอกชัดเจนแล้วว่า Snapchat ซึ่งมาจากคำว่า Snap ที่แปลว่าถ่ายรูป และ Chat ที่แปลว่าสื่อสาร ดังนั้นฟีเจอร์หลักของแอปฯ นี้คือ การสื่อสารกันระหว่างเพื่อนผ่านการถ่ายภาพ เพราะคนคิดแอปฯ รู้ดีว่าทุกวันนี้เด็กรุ่นใหม่เขียนและอ่านกันน้อยลง ฉะนั้นพวกเขาใช้วิธีถ่ายพูดด้วยภาพถ่าย
จะเห็นได้ว่าการตั้งชื่อธุรกิจจะต้องใช้ความคิดนอกกรอบอย่างมากเพื่อลูกค้ารับรู้ถึงความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งคุณก็สามารถลองใช้วิธีนี้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อธุรกิจของคุณได้
2. มองการไกล ตั้งชื่อเผื่ออนาคต
การตั้งชื่อธุรกิจใด ๆ ก็ตาม หากจะให้ดีควรเลี่ยงตั้งชื่อที่เฉพาะเจาะจงเกินไปให้ตั้งชื่อเผื่อการขยายธุรกิจในอนาคต ตั้งชื่อที่สามารถสื่อถึงของแบรนด์คุณได้ดี ง่ายต่อการออกแบบโลโก้ เพราะโลโก้เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ชื่อบริษัทดูโดดเด่น เพราะโลโก้ทำหน้าที่เดียวกับชื่อบริษัทที่จะต้องไปอยู่บนป้าย บนนามบัตร โลโก้ที่สวยทำให้ชื่อร้านสะดุดตาได้ ดังนั้นชื่อที่สามารถพอดีกับโลโก้ ไม่ควรยาวจนเกินไป
3. การมีส่วนร่วมในการตั้งชื่อ
เราทราบดีการคิดชื่อธุรกิจให้สร้างสรรค์ และโดดเด่นเป็นเรื่องที่ยาก การให้คนในทีมช่วยกันคิดชื่อขึ้นมานั้น ก็จะเป็นวิธีที่ดีในการทำให้คนในบริษัทได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมดีๆแบบนี้ บางครั้งคุณอาจจะได้ชื่อธุรกิจที่สร้างสรรค์ในแบบที่คุณคิดไม่ถึงก็ได้ หรือหลังจากที่ทุกคนช่วยกันรวบรวมคำศัพท์สำหรับตั้งชื่อธุรกิจแล้ว คุณอาจจะลองป้อนคำเหล่านั้นลงในเครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มของเราดู ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งให้คุณได้ชื่อธุรกิจที่รวดเร็วขึ้น เพื่อที่คุณจะได้มีเวลาในการทำสิ่งอื่นที่จำเป็นต่อไป เช่น มีเวลาในการออกแบบโลโก้ และคิดเรื่องการโปรโมทธุรกิจของคุณต่อไป
4. ชื่อต้องเป็นที่จดจำ
ชื่อบริษัทเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้คนรู้ว่าคุณทำธุรกิจอะไร คุณจะต้องตั้งชื่อที่ทำให้ผู้คนจดจำธุรกิจของคุณได้ มีหลายวิธีในการตั้งชื่อให้เป็นที่น่าจดจำ อย่างแรกเลยก็คือ การใช้การสะกดคำที่ไม่ซับซ้อนจนเกินไป ตั้งชื่อไม่ให้ยาวจนเกินไป ลองดูชื่อธุรกิจที่มีชื่อเสียงที่เขาประสบความสำเร็จแล้ว จะเห็นได้ว่าชื่อที่ใช้จะไม่ยาว ช่วยให้ผู้คนจดจำได้ง่าย และนึกถึงได้ง่ายเมื่อพวกเขาต้องการใช้บริการ
5. ตั้งชื่อให้มีความหมาย
การใช้ชื่อธุรกิจให้มีความหมายสอดคล้องกับธุรกิจที่คุณทำ หรือตั้งชื่อธุรกิจให้มีความหมายดีจะช่วยจูงใจให้ผู้ประกอบการและลูกค้า เข้าหามากกว่าชื่อที่มีความหมายไม่ดี และควรเป็นชื่อที่สะกดง่าย ออกเสียงง่าย ชื่อที่มีความหมายที่ดีสามารถแสดงจุดยืน ภาพลักษณ์ของธุรกิจ ลูกค้าหลายคนอาจถูกใจความหมายดี ๆ
6. ใช้เครื่องชื่อตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่ม
ขั้นตอนสุดท้าย ให้คุณลองนำคำศัพท์ทั้งหมดที่รวบรวมได้จากการระดมความคิดจากคนในทีม พิมพ์คำเหล่านี้ลงในเครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มและเลื่อนดูผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนใคร! เพราะเครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงสำหรับสคิดชื่อที่ใช่ให้ธุรกิจของคุณ
สรุป
การตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มที่ประกอบไปด้วยคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณตามตัวอย่าง จะทำให้เมื่อลูกค้าเห็นก็จะรู้ได้ทันทีว่าธุรกิจของคุณทำเกี่ยวกับอะไร และยังให้ช่วยจดจำได้ง่ายขึ้นด้วย เพราะมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับบริการของธุรกิจ การใช้เครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจแบบสุ่มเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีที่สุด ช่วยให้คุณมีไอเดียตั้งชื่อที่เชื่อมโยงกับธุรกิจของคุณได้ และยังเป็นประโยชน์สำหรับการค้นหาข้อมูลบน Search Engine เมื่อลูกค้าต้องการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับบริการธุรกิจของคุณด้วย