ระบบตั้งชื่อร้านอาหาร
ตั้งชื่อให้ร้านอาหารของคุณด้านล่างนี้
สร้างเว็บไซต์ของคุณเองได้ฟรี!
เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ของ GoDaddy ช่วยให้คุณสร้างและปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณเองได้อย่างง่ายดาย ด้วยเครื่องมือแบบลากและวาง
ขื่อสุดพรีเมียมเพื่อปั้นธุรกิจของคุณ
รังสรรค์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์และนักออกแบบมืออาชีพ
View More Premium Names from Domainify

แอชลีย์ ส.
ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์และการตลาด
เนื้อหาบทความ
(ข้ามไปยังส่วนอื่น)
วิธีตั้งชื่อธุรกิจของคุณ
5 เคล็ดลับในการตั้งชื่อธุรกิจของคุณ
ไอเดียชื่อธุรกิจ
วิธีตั้งชื่อให้ร้านอาหารของคุณ
สวัสดีค่ะ ฉันแอชลีย์ (ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์) ฉันจะคุณไปพบสี่ขั้นตอนโดยละเอียดเพื่อช่วยให้คุณได้ชื่อร้านอาหารสุดสร้างสรรค์ของคุณนะคะ ด้านล่างนี้จะมีตัวอย่างชื่อร้าน 20 ตัวอย่างที่ฉันได้ตั้งขึ้นมาระหว่างเขียนบทความนี้ ต่อไปฉันจะทำให้ดูว่าคุณจะตั้งชื่อร้านของคุณเองได้อย่างไร ก่อนอื่นลองระบบตั้งชื่อร้านอาหารของเราด้านบนก่อน แล้วค่อยเลื่อนลงมาดูขั้นตอนแรกในการตั้งชื่อค่ะ
- Island Grill
- Flavoroso
- Green Curry
- El Pirata Porch
- Sweet Escape
- Salty Squid
- Bangalore Spices
- Pancake World
- Veganic Corner
- Masala
- Grassfed Grill
- Greenanic Smoothies
- Freddy’s Stove
- Grandma’s Sweets
- Spicella Spanish Kitchen
- Xin Chao Vietnamese Restaurant
- Paterro’s Kitchen
- Mediterra Seafood
- Street Deli
- Whispering Bamboo
ตั้งชื่อธุรกิจคุณให้ไม่ซ้ำใครด้วยระบบตั้งชื่อธุรกิจของเรา
#1) Brainstorm your name ideas
Start by brainstorming what words could fit into your business name. In my name ideas, I used words like “Grill”, “Kitchen”, “Porch” and “Stove”, you can see that while these words can be related to restaurants, they also suggest that you can expect a delicious, organic and tasty sort of food from this restaurant. Your goal here is to create a list of words or names that come to mind when thinking about your business.
If you’re stuck on words to use, try our business name generator.
นี่เป็นไอเดียของฉันหลังระดมความคิดค่ะ:
#2) ลองตัดตัวเลือกให้เหลือน้อยลง
เมื่อลองร่ายรายชื่อที่น่าจะใช้ได้แล้วก็ลองวิเคราะห์ไอเดียของคุณค่ะ ตัดชื่อได้ก็ได้ออก ชื่อที่คิดว่าน่าจะจำยาก ลองสะกดหรือพูดชื่อออกมา ส่วนชื่อที่นำไปตั้งแบรนด์ได้ ฟังดูดี จำง่าย และสามารถสื่อถึงคุณค่าของแบรนด์ สินค้าหรือบริการให้กับกลุ่มบุคคลเป้าหมายของคุณได้นั้น ให้เก็บไว้
อันนี้เป็นลิสต์ให้คุณลองเช็คดูเพื่อช่วยตัดชื่อออกไปได้บ้าง:
- ชื่อเรียบง่ายและจำง่ายหรือเปล่า
- ชื่อนี้อ่านออกเสียงง่ายหรือเปล่า
- ชื่อนี้แตกต่างจากชื่อคู่แข่งหรือเปล่า
- ชื่อนี้สื่อความหมายชัดเจนหรือยัง
- ชื่อนี้เลี่ยงการใช้คำซ้ำซากหรือน่าเบื่อหรือไม่
ชื่อที่คัดมาแล้ว:
ชื่อที่ตัดออก:
ตั้งชื่อธุรกิจคุณให้ไม่ซ้ำใครด้วยระบบตั้งชื่อธุรกิจของเรา
#3) ขอคำติชม
มาถึงตอนนี้ คุณก็จะมีชื่อธุรกิจร้านอาหารเจ๋ง ๆ แล้วสัก 3-6 ชื่อ ลองถามฟีดแบ็กจากลูกค้าหรือคนที่ทำงานในวงการได้เลย (ซึ่งก็คือกลุ่มบุคคลเป้าหมายของคุณ) เลี่ยงการขอฟีดแบ็กจากคนในครอบครัวและเพื่อนเพราะกลุ่มนี้มักจะอวยไอเดียทุกอย่างที่คุณมี และพวกเขาก็ไม่ใช่ลูกค้าคุณด้วย
ให้คุณลองถามดูว่า:
- พอได้ยินชื่อนี้ นึกถึงอะไรเป็นอย่างแรก
- ได้ยินแล้วจะสะกดยังไง
พอได้ฟีดแบ็กจากลูกค้ามา คุณก็จะถามตัวเองได้แล้วว่าชื่อนี้ยังดีอยู่ไหม ยังสามารถสื่อถึงธุรกิจอย่างที่คุณตั้งใจจะทำได้หรือไม่
เสียงตอบรับจากลูกค้าของฉัน:
ชื่อนี้สื่อว่าเป็นร้านอาหารที่เชี่ยวชาญด้านการทำอาหารทะเล
ชื่อนี้สื่อว่าเป็นร้านที่ทำแค่เมนูผัก และเป็นผักที่ปลูกแบบออร์แกนิก
ชื่อนี้สื่อว่าเป็นร้านอาหารที่ถนัดอาหารสไตล์เมดิเตอเรเนียนโดยใช้อาหารทะเลสด ๆ เป็นหลัก
ชื่อนี้สื่อว่าร้านนี้โฟกัสที่การทำอาหารเอเชียออร์แกนิกเพื่อสุขภาพ
#4) Check It’s available
At this point, it’s good to have at least three great restaurant names on your list, in case your any of your names are already taken. You can do a quick Business Name Search online to find out if you’re name is available within your country/state, also be sure to search if the name is also available for Trademark and Domain name Registration.
ตรวจสอบโดเมนที่ใช้ได้
วิเคราะห์ชื่อคู่แข่ง
มาดูชื่อธุรกิจร้านอาหารสามแห่งกันก่อนเพื่อช่วยคุณระดมไอเดียชื่อธุรกิจคุณ ดูกันว่าทำไมพวกเขาเลือกใช้ชื่อนั้น และชื่อนั้นได้ผลดียังไงนะคะ

The Kitchen
Kitchen คือห้องครัว คือสถานที่ที่ใช้ทำอาหารในครัวเรือน ร้านนี้ก็ใช้ประโยชน์จากตรงนี้ พอใช้คู่กับคำว่า The ยิ่งสื่อถึงความเชี่ยวชาญด้านการทำอาหารของร้านว่าที่นี่แหละ มีที่เดียว

Inside and you’re out (IYO)
ชื่อย่อนี่จำง่ายมาก ชื่อเต็มก็คือจะสื่อว่าร้านนี้ทำเบอร์เกอร์แบบไส้ทะลัก ชีสทะลัก วัตถุดิบทะลักจากด้านในล้นออกมาด้านนอก

Stokehouse
เป็นการรวมคำว่า Smokehouse กับ steakhouse เข้าด้วยกันค่ะ นอกจากนี้ The Stokehouse ยังบอกกลุ่มลูกค้าด้วยว่าพอมาร้านนี้แล้วจะ stoked ซึ่งแปลว่ามีความสุข/ประทับใจกับมื้ออาหารจากร้านนั้นเอง
1. ทำการวิเคราะห์คู่แข่ง
วิเคราะห์คู่แข่งตั้งแต่ขั้นตอนแรกจะช่วยประหยัดเวลาได้มากในอนาคต เพราะจะได้รู้ว่าชื่อไหนที่ควรเลี่ยงบ้าง และยังช่วยให้คุณเข้าใจว่าชื่อธุรกิจของคู่แข่งจะช่วยเฟ้นคำและตั้งชื่อธุรกิจของคุณได้อย่างไร เมื่อคุณทำการวิเคราะห์คู่แข่งนั้น ลองนึกถึงสิ่งต่อไปนี้:
- ชื่อธุรกิจของพวกเขามีการสื่อถึงธุรกิจหรือคุณค่าผลิตภัณฑ์อย่างไร และนั่นได้ผลเป็นอย่างไรบ้าง
- มีแนวโน้มหรือไม่ว่าธุรกิจเหล่านี้บอกชื่อของตัวเองชัดอยู่แล้ว เพราะเราควรเลี่ยงใช้ชื่อที่สื่อว่า “ก็แค่ธุรกิจแนวนี้อีกเจ้าหนึ่ง”
- เจ้าไหนทำได้ดีที่สุด ทำไมถึงได้ผล และคุณจะตั้งชื่อที่ดีกว่าได้อย่างไร
2. โฟกัสที่การตั้งชื่อธุรกิจ ไม่ใช่การอธิบายถึงธุรกิจ
จุดที่ธุรกิจหลายเจ้าพลาดก็คืออธิบายตรงเกินไปว่าธุรกิจนั้นทำอะไร เช่นใช้คำด้านเบเกอรี่ที่ใช้กันเกลื่อนอย่างคำว่า asty, delicious หรือ sweet ชื่อธุรกิจที่มีประสิทธิภาพมากกว่านั้นควรสื่อให้ลูกค้าได้เห็นถึงคุณค่าของธุรกิจและผลิตภัณฑ์ในระดับที่ลึกกว่า ลองตั้งชื่อธุรกิจของคุณแบบให้มีเรื่องราวและที่มาเบื้องหลังดีกว่า
มาดูตัวอย่างของธุรกิจเบเกอรี่ที่มีจริงที่ชื่อว่า Gracious Madre กันค่ะ
ชื่อนี้เป็นภาษาสเปน แปลตรงตัวว่า “ขอบคุณค่ะแม่” การใช้ภาษาอื่นนี้ยังบอกถึงสไตล์อาหารด้วย ส่วนคำว่าแม่นั้นหมายถึง mother earth หรือในวัฒนธรรมไทยก็จะเป็นพระแม่ธรณีที่ทำให้เรามีวัตถุดิบในการทำอาหาร นอกจากจะเข้าใจได้ง่ายแล้ว ชื่อนี้ยังเหมาะไปสร้างแบรนด์มากด้วยค่ะ
3. วิธีทำให้ชื่อจำง่าย
การตั้งชื่อธุรกิจที่จำง่ายเป็นขั้นตอนแรกที่ให้คุณเข้าถึงความคิดของลูกค้า และยังเป็นสิ่งที่พูดง่ายกว่าทำด้วย ชื่อธุรกิจของคุณควรมุ่งให้ลูกค้าคุณหยุดและฉุกคิดถึงสินค้าคุณท่ามกลางคู่แข่งที่มีมากมาย เคล็ดลับที่จะทำให้ชื่อเป็นที่น่าจดจำได้แก่:
- ใช้การออกเสียงที่เป็นจังหวะหรือมีสัมผัสอักษร(Salty Squid, Grassfed Grill)
- พยายามใช้คำที่ความหมายจะไม่เกี่ยวกับเบเกอรี่เลยเมื่อบริบทเปลี่ยนไป (El Pirata Porch – El Pirata ในภาษาสเปนแปลว่าโจรสลัด ซึ่งชื่อก็สื่อถึงประเภทอาหารที่ทางร้านเชี่ยวชาญ)
- ทำให้สั้นและเรียบง่ายเข้าไว้
4. ลองซื้อชื่อธุรกิจแบบแบรนเดเบิล (Brandable)
ชื่อธุรกิจ Brandable เป็นชื่อที่ไม่มีความหมายแต่พออ่านแล้วออกเสียงได้ชัดเจนดี โดยมักใช้รูปแบบของตัวโครงสร้างคำเป็น สระ/พยัญชนะ/สระ ที่จะทำให้ทั้งสั้น ติดหูและจำง่าย ตัวอย่างธุรกิจร้านอาหารแบบแบรนเดเบิลก็คือ:
- Bilane Seafood
- Vanilos Grill
- Navarro Kitchen
ลองหาชื่อธุรกิจแบรนเดเบิลแบบอื่นเพิ่มเติมได้ที่ Domainify.com
5. เลี่ยงการนำคำมารวมกันเพื่อสร้างเอกลักษณ์
สิ่งที่เจ้าของธุรกิจมักพลาดอีกอย่างคือนำคำแย่ ๆ มารวมกันเมื่อพบว่าชื่อที่อยากจะใช้นั้นมีคนใช้ไปแล้ว ตัวอย่างเช่น จอห์นตั้งชื่อร้านอาหารของเขาไว้ว่า Veganic Corner แต่พบว่ามีคนใช้ชื่อนี้ไปแล้ว ด้วยความที่เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะใช้ชื่อนั้น เขาึงลองปรับเป็นชื่ออื่นที่ฟังดูใกล้เคียงกันแทน เช่น Veganicorner, VeggaCorner หรือ Vegan Corner
จะเห็นได้ว่าไอเดียพวกนี้คือการถอยหลังลงคลองเพราะไม่ติดหู ออกเสียงยาก จำก็ยาก หากตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ขอแนะนำให้เริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นและพยายามใช้เคล็ดลับที่เราได้แจ้งไว้ตอนต้นค่ะ
อย่าลืมใช้ระบบตั้งชื่อร้านอาหารของเรานะคะ
ร้านอาหารมักถูกอธิบายขยายความว่าอย่างไร
(“______ Restaurant”)
ตัวอย่างชื่อร้านอาหารที่ใช้คำเหล่านี้ในการอธิบายร้านค่ะ: ‘Rockys Local Steakhouse’ และ ‘The Fast Italian Restaurant’