หากคุณเป็นเจ้าของแบรนด์ธุรกิจเครื่องสำอางที่ประสบความสำเร็จและต้องการที่จะขยับขยายกิจการจาก SME มาเป็นธุรกิจอยู่ล่ะก็ นอกเหนือไปจากการเตรียมการด้านเอกสารต่าง ๆ แล้ว สิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้ามก็คือการตั้งชื่อธุรกิจ เพราะชื่อธุรกิจจะเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถผลักดันให้แบรนด์ธุรกิจเครื่องสำอางของคุณประสบความสำเร็จได้ยิ่งขึ้นไปอีก
ควรตั้งชื่อธุรกิจเครื่องสำอางว่าอะไรดี
หากคุณยังไม่ทราบว่าจะตั้งชื่อธุรกิจเครื่องสำอางของคุณว่าอะไรดี อ่านคำแนะนำ 10 ข้อของเราเพื่อจุดประกายความคิดและสร้างสรรค์ชื่อธุรกิจเครื่องสำอางของคุณให้ประสบความสำเร็จ!
1. ไม่ควรซ้ำกับธุรกิจอื่นที่มีอยู่
แน่นอนว่าสิ่งสำคัญอันดับแรกก็คือ ชื่อธุรกิจของคุณไม่ควรซ้ำกับชื่อธุรกิจที่มีอยู่ก่อนหน้า หากคุณมีไอเดียในการตั้งชื่อธุรกิจแล้ว อย่าลืมนำไอเดียของคุณไปค้นหาบนเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเพื่อตรวจสอบว่าชื่อธุรกิจนั้นซ้ำหรือไม่
2. ระวังคำ Prefix หรือ Suffix กับธุรกิจอื่น
เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาการฟ้องร้องที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต โปรดระวังคำที่ดูเหมือนจะเป็น Prefix หรือ Suffix ของธุรกิจอื่น เพราะนี่อาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้อ่านว่าธุรกิจของคุณเป็นธุรกิจในเครือของธุรกิจที่มีอยู่
3. ตั้งตามชื่อแบรนด์ผลิตภัณฑ์
การตั้งชื่อธุรกิจเป็นชื่อเดียวกันกับชื่อแบรนด์นั้นเป็นไอเดียที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะผู้คนจะทราบได้ทันทีว่าธุรกิจของคุณนั้นทำอะไรและเป็นเจ้าของแบรนด์ชนิดนี้อยู่ ซึ่งปัจจุบันนี้มีหลาย ๆ ธุรกิจที่ใช้ชื่อเดียวกันกับชื่อแบรนด์ที่จำหน่ายอยู่ เช่น
- แบรนด์ Smooth E ที่มีชื่อธุรกิจ Smooth E Co., Ltd.
- แบรนด์ L’Oreal ที่มีชื่อธุรกิจ L’Oreal (Thailand) Co., Ltd.
- แบรนด์ Srichand ที่มีชื่อธุรกิจ Srichand United Dispensary Co., Ltd.
- แบรนด์ Estée ที่มีชื่อธุรกิจ Estée Lauder Co., Inc
- แบรนด์ Nongchat ที่มีชื่อธุรกิจ Nongchat Co., Ltd.
4. ควรมีคำที่บ่งบอกถึงสิ่งที่ธุรกิจกำลังทำอยู่
ชื่อธุรกิจควรจะมีคำที่บ่งบอกถึงสิ่งที่ธุรกิจกำลังทำอยู่ เพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบในทันทีว่าธุรกิจของคุณคืออะไรและทำอะไร เช่น cosmetic, beauty, lab, belle, derma, laboratory, skin care, derma, health, care, skin เป็นต้น
ยกตัวอย่างชื่อธุรกิจที่มีคำเหล่านี้:
- ธุรกิจ Beauty Buffet Ltd. ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ Lansley, Gino McCray, Beauty Cottage และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ธุรกิจ Celeb Skin Happiness Ltd. ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ Celeb Skin
- ธุรกิจ NBD Health Care Ltd. ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ Provamed
- ธุรกิจ Clinique Laboratories, LLC ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ Clinique
- ธุรกิจ Too Faced Cosmetics, LLC. ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ Too Faced
5. ตั้งกว้าง ๆ เผื่ออนาคต
เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่เราคาดการณ์ไม่ได้ ธุรกิจเครื่องสำอางของคุณอาจจะประสบความสำเร็จอย่างมากและออกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพิ่มเติม ดังนั้น ชื่อธุรกิจของคุณควรจะเป็นชื่อที่ตั้งกว้าง ๆ
ยกตัวอย่างธุรกิจเครื่องสำอางที่เป็นเจ้าของแบรนด์หลาย ๆ แบรนด์:
- ธุรกิจ Beiersdorf AG ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ Nivea, Nivea Men และ Eucerin
- ธุรกิจ L’Oreal S.A. ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ Lancome, Maybelline New York, Garnier และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ธุรกิจ Unilever plc ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ Citra, Pond’s, Vaseline และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ธุรกิจ Procter & Gamble Co. ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ SK II, Olay, Snowberry และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ธุรกิจ Karmarts Public Co., Ltd. ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ Cathy Doll, Baby Bright, Reun Rom และอื่น ๆ อีกมากมาย
6. ควรเป็นชื่อภาษาอังกฤษ
นอกจากการออกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในอนาคตแล้ว ธุรกิจของคุณอาจจะเติบโตจนถึงขั้นส่งออกไปต่างประเทศหรือเปิดโรงงานในต่างประเทศ ดังนั้น เราขอแนะนำให้คุณตั้งชื่อธุรกิจเป็นภาษาอังกฤษเผื่ออนาคตเช่นกัน
7. ระวังคำแปลก ๆ ในภาษาอื่น
หากคุณรักความเป็นไทยและต้องการตั้งชื่อธุรกิจเป็นภาษาไทย นี่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่โปรดระวังคำที่อาจมีความหมายแปลก ๆ หรือความหมายไม่ดีในภาษาอื่นเมื่อนำชื่อธุรกิจไปอ่านออกเสียง เขียนทับศัพท์หรือแปลเป็นภาษาอังกฤษ เช่น พร หรือ ชิต เป็นต้น
8. หลีกเลี่ยงคำที่เกี่ยวข้องกับประเด็นอ่อนไหว
ชื่อธุรกิจไม่ควรจะมีคำที่เกี่ยวข้องกับประเด็นอ่อนไหวทั้งหมด เช่น ศาสนา เพศ สีผิว ชาติพันธุ์ คำส่อเสียด คำให้ร้าย รวมไปถึงคำหรือข้อความใด ๆ ที่เป็นหรือเกี่ยวข้องกับพระนามของพระเจ้าแผ่นดิน พระมเหสี รัชทายาท หรือพระบรมวงศานุวงศ์ในพระราชวงศ์ปัจจุบัน เว้นแต่จะได้รับพระบรมราชานุญาต และชื่อกระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการ ราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานหรือองค์การของรัฐ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงที่เกี่ยวข้อง
9. ใช้ชื่อหรือนามสกุลตนเอง
ว่ากันว่าชื่อที่บิดาและมารดาตั้งให้เป็นชื่อที่มงคลที่สุด หากคุณต้องการตั้งชื่อธุรกิจของคุณด้วยชื่อจริงของคุณ นั่นก็ฟังดูเข้าท่าดี หรือคุณสามารถใช้นามสกุลของคุณมาตั้งด้วยก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าชื่อดังกล่าวนั้นไม่ซ้ำกับชื่อที่มีอยู่หรือมีคำ Prefix หรือ Suffix ที่ทำให้นึกถึงหรือสร้างความเข้าใจผิดถึงธุรกิจอื่น ๆ ที่มีอยู่
นอกจากนี้แล้ว ในกรณีที่คุณเป็นบุคคลที่เป็นที่รู้จักในสังคมหรือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง การตั้งชื่อธุรกิจด้วยชื่อของคุณเองนั้นจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณและเป็นการโฆษณาธุรกิจของคุณไปในตัว
10. สามารถตั้งเป็นโดเมนเว็บไซต์ได้
เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจเครื่องสำอางของคุณ คุณควรมีเว็บไซต์ธุรกิจเป็นของตนเอง ดังนั้น ก่อนที่คุณจะทำการจดทะเบียนนิติบุคคลเพื่อเปิดธุรกิจเครื่องสำอางใด ๆ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าชื่อดังกล่าวนั้นสามารถนำไปตั้งเป็นชื่อโดเมนเว็บไซต์ได้หรือเปล่า และถ้าจะให้ดี ชื่อโดเมนเว็บไซต์ควรจะสามารถตั้งเป็น .com และไม่ควรมีตัวเลขหรือเครื่องหมาย – แทรกในโดเมน โดยคุณสามารถนำไอเดียชื่อธุรกิจเครื่องสำอางของคุณไปค้นหาชื่อโดเมนที่ยังไม่ซ้ำได้บนเว็บไซต์ของ GoDaddy
ให้ Business Name Generator ช่วยคุณ
ค้นพบไอเดียใหม่ ๆ ในการตั้งชื่อธุรกิจเครื่องสำอางของคุณได้มากขึ้นด้วย Business Name Generator เพียงแค่กรอกคำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเครื่องสำอาง เช่น cosmetic, derma, belle, beauty, lab, laboratory, skin care, derma, health, care หรือ skin หรือไอเดียที่คุณมีลงบนช่องค้นหา คุณก็จะค้นพบไอเดียใหม่ ๆ ในการตั้งชื่อธุรกิจเครื่องสำอางที่สร้างสรรค์กว่า 100+ ชื่อด้วยกัน
และนี่คือไอเดียชื่อธุรกิจเครื่องสำอางที่สร้างสรรค์โดย Business Name Generator:
- Eternal Beauty
- Charm Care
- Charm Skin
- Cosmetadil
- Carelogy
- Beautaro
- Cleo Cosmetics
- SkinX
- Beatlia
- Skin Genesis
- Care Bonita
- Belle Queen
- Beauty Witch
- Skinoont
- Care Erotic
- Careex
- Skinzilla
- Skinn
- Beautella
- Skindo
- Beauty Pure
- Skiniva
- Cosmetic Purr
- Skin Extra
- Cosmetic Rava
- Care Onyx
- Beauty Cosmic
- Charm Merry
- Skinaza
- Beautaza
วิเคราะห์ชื่อธุรกิจเครื่องสำอางที่มีอยู่จริง
เพื่อช่วยให้คุณเกิดไอเดียในการตั้งชื่อธุรกิจเครื่องสำอางได้มากขึ้น เราจึงได้หยิบยกตัวอย่างชื่อธุรกิจเครื่องสำอางที่มีอยู่จริงที่น่าสนใจและตรงตามคำแนะนำข้างต้นมา 3 ธุรกิจ จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย
1. Galderma Laboratories, L.P.
ธุรกิจผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสกินแคร์ชื่อดังจากสวิตเซอร์แลนด์ที่มีธุรกิจย่อยในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1981 โดยคุณอองรี เนสท์เล่ (Henri Nestlé) เภสัชกรชาวสวิตเซอร์แลนด์ผู้ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์เครื่องดื่มและอาหารชื่อดังอย่าง Nestlé โดยผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของธุรกิจ Galderma Laboratories, L.P. นั้นมีหลากหลายแบรนด์ด้วยกัน เช่น Cetaphil, SCULPTRA, Actinica รวมไปถึงยาต่าง ๆ เช่น Restylane, Oracea, Epiduo Forte และอื่น ๆ อีกมากมาย
เมื่อนำชื่อธุรกิจ Galderma Laboratories มาวิเคราะห์แล้วนั้น นี่เป็นชื่อธุรกิจที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะมีคำที่บอกถึงสิ่งที่ธุรกิจกำลังทำอยู่ เช่น Derma เป็นคำศัพท์ทางการแพทย์ที่แปลว่า ผิวหนัง และ Laboratories ที่แปลว่า ห้องปฏิบัติการวิจัย เป็นชื่อธุรกิจที่ผู้อ่านสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าธุรกิจนี้เกี่ยวข้องกับยาและการแพทย์ ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผิวหนัง อีกทั้งชื่อธุรกิจยังเป็นภาษาอังกฤษ มีความเป็นสากล และเป็นชื่อกว้าง ๆ ที่ไม่เจาะจงที่แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง ทำให้ธุรกิจสามารถออกแบรนด์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาได้เรื่อย ๆ ในอนาคต
2. Bobbi Brown Professional Cosmetics, Inc.
ธุรกิจผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์เครื่องสำอางชื่อดังอย่าง ‘Bobbi Brown’ จากสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1991 โดยคุณบ๊อบบี้ บราวน์ (Bobbi Brown) ช่างแต่งหน้าชาวอเมริกัน เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ปฏิวัติวงการเครื่องสำอางของโลก เพราะผลิตภัณฑ์ชนิดแรกของธุรกิจก็คือ รองพื้นชนิดแท่ง ซึ่งได้สร้างเสียงฮือฮาให้กับผู้คนอย่างมากและมียอดขายถล่มทลายอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1995 คุณบ๊อบบี้ บราวน์ ก็ได้ขายหุ้นส่วนใหญ่ให้กับธุรกิจเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง The Estée Lauder Companies Inc.
เมื่อนำชื่อธุรกิจ Bobbi Brown Professional Cosmetics มาวิเคราะห์แล้วนั้น นี่เป็นชื่อธุรกิจที่ดีอย่างหนึ่งเพราะเป็นการนำชื่อและนามสกุลของผู้ก่อตั้งมาตั้งเป็นชื่อธุรกิจ มีความเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก มีคำว่า Professional ที่แปลว่า มืออาชีพ และ Cosmetic ที่แปลว่า เครื่องสำอาง เป็นวลีที่บอกว่าธุรกิจนี้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องสำอางแบรนด์ Bobbi Brown โดยตรง และเป็นธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญหรือเป็นมืออาชีพทางด้านเครื่องสำอาง อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ชื่อธุรกิจนี้เจาะจงเพียงแค่แบรนด์ ๆ เดียวเท่านั้น
3. Chanel Inc.
ธุรกิจผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องแต่งกายระดับหรูชื่อดังจากประเทศฝรั่งเศสแบรนด์ ‘Chanel’ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1910 โดยโคโค่ ชาแนล (Coco Chanel) ช่างตัดเครื่องแต่งกายหญิงชาวฝรั่งเศส ซึ่งแรกเริ่มนั้นคุณโคโค่เปิดร้านตัดเสื้อผ้าเล็ก ๆ สำหรับสตรีในกรุงปารีสและลูกค้าของร้านจะเป็นกลุ่มชนชั้นสูง ขุนนางและเศรษฐี แบรนด์นี้ประสบความสำเร็จอย่างมากและเกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามกาลเวลา เช่น หมวก กระเป๋า รองเท้า รวมไปถึงน้ำหอมและเครื่องสำอาง เช่น รองพื้น แป้งพัฟ ลิปสติก และอื่น ๆ อีกมากมาย
เมื่อนำชื่อธุรกิจ Chanel มาวิเคราะห์ดูแล้ว นี่ก็เป็นชื่อธุรกิจที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะเป็นการนำนามสกุลของผู้ก่อตั้งมาเป็นชื่อธุรกิจซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก มีการนำชื่อแบรนด์มาตั้งเป็นชื่อธุรกิจโดยตรง แต่อย่างไรก็ตาม ชื่อธุรกิจก็ไม่ได้มีการใส่คำอื่นใดเพิ่มเติม ซึ่งนี่อาจจะทำให้ผู้อ่านไม่ทราบว่าธุรกิจนี้ทำอะไรและมีผลิตภัณฑ์อะไร แต่ด้วยความที่แบรนด์ ‘Chanel’ เป็นแบรนด์เครื่องแต่งกายอันเก่าแก่กว่า 2 ศตวรรษและเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วว่าเป็นชื่อแบรนด์ของเครื่องแต่งกายระดับหรูชื่อดังจากฝรั่งเศส เมื่อผู้อ่านอ่านชื่อธุรกิจก็สามารถรับรู้ได้ทันทีว่า Chanel Inc. เป็นชื่อธุรกิจของแบรนด์ดังแบรนด์นี้